อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเกิดได้กับทุกช่วงวัย ซึ่งพบได้บ่อยเป็นปกติในชีวิตประจำวัน โดยทั่วไปอาการมักหายได้เอง แต่หากอยู่นานจะทำให้รู้สึกหงุดหงิดไม่สบายตัว หากทิ้งไว้ก็จะกลายเป็นอาการปวดเมื่อยเรื้อรังที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและการใช้ชีวิตประจำวัน การดูแลตนเองในเบื้องต้น การป้องกัน และลดความเสี่ยงของอาการปวดเมื่อยที่อาจเกิดขึ้นก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดและลดความเสี่ยงของผลกระทบรุนแรงที่เกิดจากการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้
ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก >> กระดูก กล้ามเนื้อ เอ็น ข้อในร่างกาย
ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก หรือเรียกว่า Musculoskeletal system ประกอบด้วยเนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้แก่ กล้ามเนื้อลายสำหรับทำหน้าที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว เช่น บริเวณแขน ขา ลำตัว หลัง หน้าท้อง กระดูกตลอดทั้งลำตัว ไม่ว่าจะเป็นกระดูกสันหลัง กระดูก แขน ขา มือ เท้า นิ้ว ไหล่ และสะโพก ส่วนของเอ็นและข้อต่าง ๆ เช่น ข้อไหล่ ข้อเข่า ข้อขา ข้อสะโพก ข้อนิ้ว
กล้ามเนื้อลาย มีหน้าที่ในการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น การยืน เดิน นั่ง การหายใจ โรคที่เกิดกับกล้ามเนื้อลาย เช่น เป็นตะคริว ปวดขา ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออักเสบ กล้ามเนื้อฉีก
กระดูก ทำหน้าที่ในการเจริญเติบโต เสริมสร้างความแข็งแรง และช่วยในการเคลื่อนไหวร่างกาย โรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูก เช่น กระดูกพรุน กระดูกหัก กระดูกอักเสบ ปวดหลังจากหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม เป็นต้น
ข้อ มีหน้าที่ช่วยในการเคลื่อนไหวของกระดูกและกล้ามเนื้อเช่นกัน โรคทีเกี่ยวกับข้อ เช่น โรคข้อเสื่อม ข้ออักเสบ โรคข้อรูมาตอยด์ เกาท์
เอ็น ช่วยในการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อที่ยึดระหว่างกล้ามเนื้อและกระดูก (เอ็นกล้ามเนื้อ (Tendon)) หรือยึดระหว่างกระดูกกับกระดูก (เอ็นกระดูก (Ligament)) โรคของเอ็น เช่น เอ็นฉีกขาดจากอุบัติเหตุ
สาเหตุอาการปวดเมื่อยตามตัว
สาเหตุส่วนใหญ่ของอาการปวดเมื่อยตามตัวในชีวิตประจำวันมักมาจากการใช้กล้ามเนื้ออย่างหนักต่อเนื่อง อย่างการทำงาน การออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬา โดยอาการปวดเมื่อยอาจเกิดขึ้นทันทีหลังทำกิจกรรมหรือเกิดขึ้นหลังทำกิจกรรมไปแล้ว 24-72 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม หากพบในผู้สูงอายุอาจต้องสังเกตว่าอาการปวดเมื่อยจริง ๆ แล้วเกิดขึ้นบริเวณใด เพื่อหาสาเหตุของการปวดว่าเกิดจากกล้ามเนื้อ กระดูก ข้อ หรือเอ็นกันแน่ เพื่อวางแผนการรักษา และการป้องกันอย่างถูกต้อง
วิธีสังเกตเบื้องต้น เช่น หากปวดเมื่อยบริเวณของกล้ามเนื้อที่มีปัญหา มักพบที่บริเวณที่ถูกใช้งานมากเป็นส่วนใหญ่ เช่น หลังต้นแขน เอว น่อง อาการปวดจากเส้นเอ็นพบบ่อยบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวข้อมาก ๆ อาจเกิดจากการอักเสบ เช่น ไหล่ ศอก ข้อมือ ข้อเท้า ส้นเท้า เอ็นร้อยหวาย ถ้าไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจจะทำให้เกิดความผิดปกติในการเคลื่อนไหวหรือมีความพิการต่อไป เช่น ไหล่ติด ยกแขนไม่ขึ้น เอี้ยวตัวไม่สุด และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อาการปวดข้อ ส่วนใหญ่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ หรือนักกีฬา/ผู้ใช้แรงงานที่ต้องใช้ข้อเดิมรับน้ำหนักซ้ำ ๆ ต่อเนื่อง ผู้สูงอายุเป็นโรคข้อได้หลายโรค ที่ เช่น ข้อเสื่อม โดยเฉพาะข้อเข่า พบบ่อยในรายที่อ้วน ทำงานแบกหาม ผู้ที่ต้องขึ้นลงบันไดบ่อย ๆ ทำให้กระดูกอ่อนในข้อเข่าเสื่อมมากกว่าปกติ การนั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิ นั่งยอง ๆ ที่มีการพับงอของหัวเข่ามากเป็นประจำ ทำให้เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อรอบเข่า มีการยืดผิดปกติ ในช่วงที่มีการงอเข่าเลือดมาเลี้ยงเข่าไม่สะดวก ทำให้เกิดปัญหาตามมา ปวดกระดูก เป็นภาวะที่เกิดการปวด กดแล้วเจ็บรุนแรง หรือรู้สึกไม่สบายตัวบริเวณกระดูกทั้งในขณะเคลื่อนไหวหรืออยู่นนิ่ง ๆ อาจเกิดจากการบาดเจ็บ การขาดวิตามินหรือแร่ธาตุ รวมถึงป่วยโรคลูคีเมียและมะเร็งกระดูก
สัญญาณใดบ้างที่ควรดูแลรักษา
- มีอาการปวดต่อเนื่องเรื้อรัง ตั้งแต่ 1 สัปดาห์ ขึ้นไป
- ทานยาลดปวดเบื้องต้น เช่น พาราเซตามอล หรือทายาลดปวดแล้วอาการไม่ดีขึ้น
- อาการปวดรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
- ไม่พบสาเหตุของอาการปวดเมื่อยที่เกิดขึ้น เช่น ไม่มีการใช้งานกล้ามเนื้อหนักต่อเนื่อง ไม่มีการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
วิธีดูแลรักษา บริหารร่างกายเบื้องต้น
1. พักกล้ามเนื้อจากการใช้งานหนัก จะช่วยให้อาการปวดเมื่อยหายเร็วขึ้น เพราะหากฝืนใช้กล้ามเนื้ออย่างหนักต่อไปจะทำให้อาการปวดบวมรุนแรงขึ้น กล้ามเนื้อฉีกขาด และอาจเสียเวลาในการพักรักษาตัวนานขึ้น
2. บรรเทาอาการปวดด้วยตนเองเบื้องต้น
- การประคบเย็น จะช่วยลดการไหลเวียนเลือดบริเวณกล้ามเนื้อที่อักเสบ โดยใช้ผ้าชุบน้ำเย็นบิดหมาดประคบบริเวณที่ปวด 15–20 นาที/ครั้ง ทุก 2–3 ชั่วโมง ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำแข็งประคบผิวโดยตรง เพราะอาจทำให้ผิวหนังบาดเจ็บได้
- การใช้ผ้าที่มีความยืดหยุ่นรัดกล้ามเนื้อพันบริเวณที่ปวด เพื่อลดการไหลเวียนเลือด
- การยกอวัยวะส่วนที่ปวดบวมให้สูงกว่าระดับหัวใจเพื่อลดการไหลเวียนเลือด
3. การทำกายภาพบำบัด หรือปรึกษาแพทย์เพื่อใช้ยาลดปวด
4. การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและรักษาตัวเองตามธรรมชาติ
5. การรับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนช่วยบำรุงกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ เช่น ทรูแคล และ UC-2 ที่พบใน M TALE CALLAGEN ป้องกันการเสื่อมสภาพ ลดการอักเสบ ช่วยเสริมความแข็งแรงของข้อและกระดูก
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร M TALE CALLAGEN ออกแบบมาสำหรับบำรุงกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะวัย 30+ ที่เริ่มเกิดความเสื่อมของระบบกล้ามเนื้อและกระดูกตามธรรมชาติ M TALE CALLAGEN มีส่วนประกอบของ ”ทรูแคล (TRUCAL®)” ช่วยเสริมแคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี และทองแดง จากน้ำนมธรรมชาตินำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วยให้กล้ามเนื้อ กระดูก และข้อแข็งแรง “UC-2 (ยูซีทู)” คอลลาเจนไทป์ทู นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วยซ่อมแซมและบำรุงกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อ พร้อม “สารสกัดจากเปลือกสนธรรมชาติ” ช่วยลดการอักเสบของกล้ามเนื้อและข้อ ลดอาการปวดข้อ และช่วยให้ข้อและกล้ามเนื้อเคลื่อนไหวได้สะดวก
เอกสารอ้างอิง