วัยทองแล้วคุณมีภาวะกระดูกบางไหม ?

          กระดูกบาง หรือ Osteopenia เป็นภาวะที่ร่างกายมีความหนาแน่นของมวลกระดูกน้อยกว่าปกติ แต่ไม่น้อยถึงระดับที่วินิจฉัยว่าเป็นโรคกระดูกพรุน กระดูกของผู้ป่วยจะอ่อนแอกว่าคนทั่วไป โดยทั่วไปผู้ที่มีภาวะนี้มักไม่แสดงอาการเจ็บปวดใด ๆ แต่หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดกระดูกหักหรือกระดูกร้าวจึงจะรู้ว่าตนเองมีภาวะโรคกระดูกพรุน โรคนี้จึงนับเป็นภัยเงียบในผู้หญิงวัย 40+ รวมถึงผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ภาวะกระดูกบางพบได้ในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และมักพบในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงวัยอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของกระดูกและการดูแลสุขภาพของแต่ละคน ภาวะนี้หากปล่อยไว้โดยไม่ได้ตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจนำไปสู่โรคกระดูกพรุนได้ ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาได้มากมาย

สาเหตุของโรคกระดูกบาง

          ระบบกระดูกจะมีเซลล์สร้างกระดูกที่ทำหน้าที่สร้างกระดูกขึ้นใหม่  จากแคลเซียมและโปรตีนตามปกติของกระบวนการเจริญเติบโตของร่างกาย  และเพื่อทดแทนกระดูกส่วนที่สึกหรอ โดยมีการสร้างกระดูกใหม่และสลายกระดูกเก่าควบคู่กันไป ภาวะ Osteopenia มักเกิดขึ้นเมื่อร่างกายเกิดการสลายกระดูกมากกว่าการสร้าง ซึ่งมักเกิดจากการที่ร่างกายมีปริมาณแคลเซียมหรือสารอาหารที่จำเป็นในกระบวนการสร้างกระดูกไม่เพียงพอ

ปัจจัยเสี่ยงของภาวะ Osteopenia
1. อายุ เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น การสร้างกระดูกใหม่ลดลงทำให้มวลกระดูกมีความหนาแน่นต่ำลงตามไปด้วย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี

2. เพศ ผู้หญิงมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระดูกบางมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากผู้หญิงมีมวลกระดูกน้อยกว่า อายุยืนกว่า และมักสูญเสียแคลเซียมมากกว่าผู้ชาย

3. ฮอร์โมน ในเพศหญิงเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลง ทำให้เกิดความเสี่ยงของภาวะ Osteopenia ผู้หญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนก่อนอายุ 45 ปี หรือผู้หญิงที่ผ่านการผ่าตัดนำรังไข่ออกไปก่อนถึงวัยหมดประจำเดือน อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะนี้เช่นกัน นอกจากนี้ ผู้ชายที่มีระดับฮอร์โมนเพศชายหรือเทสโทสเตอโรนลดลงก็มีโอกาสเกิดภาวะนี้ด้วย

4. พฤติกรรมการบริโภค การกินอาหารที่มีแคลเซียมหรือวิตามินดีไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอาจทำให้เกิดภาวะกระดูกบางได้ การดื่มน้ำอัดลม ชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ก็เพิ่มความเสี่ยงเช่นกัน

5. การออกกำลังกาย จะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะกระดูกบาง

6. การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาสเตียรอยด์ (เพรดนิโซโลนและไฮโดรคอร์ติโซน) ยากันชัก (คาร์บามาซีปีน กาบาเพนติน และเฟนิโทอิน) การทำคีโมหรือเคมีบำบัดที่ต้องมีการฉายรังสีก็อาจเป็นสาเหตุของภาวะนี้ได้เช่นกัน

การวินิจฉัยโรคกระดูกบาง

          การวินิจฉัยโรคกระดูกพรุนทำได้ตรวจหาความหนาแน่นของกระดูกโดยการตรวจทางรังสี ซึ่งใช้เวลาไม่นาน ไม่ทำให้เจ็บหรือปวด เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากในการประเมินความหนาแน่นของมวลกระดูก ทำให้แพทย์วางแผนการรักษาได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่มของโรค ทั้งนี้ค่าความหนาแน่นของกระดูก (Bone Mineral Density หรือ BMD) ของคนปกติจะอยู่ที่มากกว่า -1.0 ส่วนคนที่มีภาวะกระดูกบาง (Osteopenia) จะมีค่า BMD อยู่ระหว่าง -1.0 ถึง -2.5 และผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนจะมีค่า BMD น้อยกว่า -2.5 อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่พบว่ากว่าผู้ป่วยจะเกิดอาการและมาตรวจรักษาก็สายเกินแก้เสียแล้ว จึงแนะนำให้หาวิธีป้องกัน และหมั่นตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนจะสายเกินแก้

การป้องกันโรคกระดูกบางและการดูแลสุขภาพ

          การป้องกันโรคกระดูกบางนั้นไม่ใช่เรื่องของวัยทองหรือผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปเท่านั้น แต่ต้องเริ่มตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นและวัย 30 ปีขึ้นไป โดยการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงและวิตามินดีสูง ออกมารับแสงแดดยามเช้าประมาณ 10-15 นาทีเพื่อรับวิตามินดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง งดการสูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพื่อลดโอกาสเกิดโรคกระดูกบางและกระดูกพรุนในอนาคต

          โดยเฉพาะหญิงวัย 40+ ควรใส่ใจดูแลสุขภาพของตนเองมากกว่าปกติ พยายามป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการหกล้ม รับประทานอย่างเหมาะสม ควรเสริมด้วยการรับประทานแคลเซียมและวิตามินดีเสริม โดยอาจหันมามารับประทานแคลเซียมเสริมทรูแคล (TRUCAL^®) แคลเซียมนำเข้าจากแหล่งน้ำนมธรรมชาติ มีแร่ธาตุสำคัญ 6 ชนิด ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี และทองแดง “UC2 (ยูซีทู)” คอลลาเจนชนิดที่ 2 นำเข้าจาก U.S.A. ช่วยซ่อมแซมและบำรุงข้อ ลดการอักเสบของข้อไปในตัว และยังประกอบด้วยสารสกัดจากเปลือกสนธรรมชาติยังช่วยลดการอักเสบของข้อ และลดการทำลายกระดูกได้อีกด้วย

          M TALE CALLAGEN เพื่อสุขภาพกระดูกและข้อที่แข็งแรง...

เอกสารอ้างอิง
1. Royal Osteoporosis Society. https://theros.org.uk/information-and-support/osteopenia/
2. Medical News Today. https://www.medicalnewstoday.com/articles/31832
3. NHS Wales. https://111.wales.nhs.uk/encyclopaedia/o/article/osteoporosis/