เคยหรือไม่ข้อติดขัดจนไม่อยากเดิน ปวด บวม ทำให้เกิดความสงสัยว่าข้อของเรามีความผิดปกติหรือไม่ มีภาวะข้อเสื่อมรึเปล่า วันนี้แอดมินจะพามาทำความรู้จักกับโรคข้อเสื่อม วิธีสังเกตอาการเบื้องต้น สาเหตุของการเกิดโรค รวมถึงวิธีการป้องกันและการดูแลตนเองกันค่ะ
โรคข้อเสื่อมคืออะไร
โรคข้อเสื่อมเป็นความผิดปกติของข้อ ที่พบได้บ่อยในช่วงวัยกลางคนหรือวัยทอง และพบได้เพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้นเรื่อย ๆ โรคข้อเสื่อมเกิดจากกระดูกอ่อนผิวข้อถูกทำลาย จนทำให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของข้อ เช่น มีน้ำสะสมในข้อเพิ่มขึ้น ทำให้มีอาการปวดบวมแดง กระดูกงอกผิดปกติ กล้ามเนื้อและเอ็นรอบข้อหย่อน ส่งผลให้ข้อเคลื่อนไหวได้จำกัดเพียงบางทิศทาง รวมทั้งทำให้เกิดอาการอักเสบต่าง ๆ ที่ข้อได้
ส่วนใหญ่โรคข้อเสื่อมมักเกิดขึ้นกับข้อที่ต้องรับน้ำหนักมาก เช่น ข้อเข่า ข้อสะโพก ข้อต่อกระดูกสันหลัง เป็นต้น ส่งผลให้การดำเนินชีวิตประจำวันผิดปกติไป หลายคนพบว่ามีอาการปวดหรือไม่สบายบริเวณข้อเมื่อต้องยืนหรือเดิน หากอาการข้อเสื่อมในขณะที่หากเกิดกับข้อต่อกระดูกสันหลัง จะเป็นเหตุให้ปวดหลังและปวดต้นคอหรือคอแข็งตึงได้ นอกจากนี้ ข้อเสื่อมอาจพบได้ที่ข้อต่าง ๆ ทั่วร่างกาย โดยเฉพาะข้อที่เคยได้รับการบาดเจ็บ มีการติดเชื้อ หรือนักกีฬาที่ลงน้ำหนักกับข้อเดิมบ่อย ๆ
อาการของโรคข้อเสื่อม
ส่วนใหญ่อาการปวดของโรคข้อเสื่อมมักมีอาการปวดเกิดขึ้นในระหว่างที่มีการใช้งานของข้อ และจะดีขึ้นเมื่อได้พัก อาจมีอาการฝืดตึงข้อสักพักในช่วงเช้าหลังตื่นนอน หรือภายหลังอยู่ในอิริยาบถท่าใดท่าหนึ่งนาน ๆ นอกจากนี้ หากเกิดอาการอับเสบมักพบอาการปวด บวม แดง และข้อมีอุณหภูมิสูงขึ้นได้ อาจพบภาวะข้อบวมและผิดรูป ซึ่งหากเกิดขึ้นแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย และประเมินความรุนแรงเบื้องต้นเพื่อหาวิธีรักษาค่ะ
สาเหตุของโรคข้อเสื่อม ใครมีโอกาสเกิดโรคข้อเสื่อมได้บ้าง
โดยปกติสรีระภายในข้อจะประกอบไปด้วยเยื่อบุข้อ น้ำไขข้อ และกระดูกอ่อนผิวข้อ โดยกระดูกอ่อนผิวข้อจะทำหน้าที่เป็นตัวดูดซับแรงกระแทกภายในข้อ และป้องกันไม่ให้กระดูกที่อยู่ภายใต้กระดูกอ่อนกระแทกกับกระดูกอีกฝั่ง อย่างไรก็ตาม ถ้ากระดูกอ่อนผิวข้อถูกทำลายไป น้ำหนักหรือแรงกดที่กระทำกับข้อก็จะส่งผลให้กระดูกคนละฝั่งเกิดการกระทบกัน กล้ามเนื้อและเอ็นรอบข้อถูกยืดจึงทำให้เกิดอาการปวดตามมา
ปัจจัยที่มีส่วนทำให้กระดูกอ่อนผิวข้อถูกทำลาย ได้แก่
- น้ำหนักตัว การที่มีน้ำหนักตัวมากจะส่งผลให้เกิดแรงกดภายในข้อ ข้อต้องทำงานเพื่อรับน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
- อายุ อายุมากมีโอกาสพบโรคข้อเสื่อมมากขึ้นตามความเสื่อมของร่างกาย
- การทำกิจกรรมบางอย่างที่ส่งผลให้ข้อต้องรับแรงกดมากจนเกินไป เช่น การนั่งคุกเข่า นั่งพับเพียบ หรือฝึกฝนกีฬาบางชนิดที่ข้อต้องรับน้ำหนักตลอดเวลา
- ปัจจัยทางพันธุกรรม เช่น ครอบครัวที่มีประวัติข้อและกระดูกอ่อนผิวข้ออ่อนแอ
โรคข้อเสื่อมสามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่พบในผู้ที่มีอายุในช่วง 45 - 50 ปี และผู้สูงอายุได้บ่อยกว่า พบว่าผู้ที่อายุมากกว่า 70 ปี ตรวจพบลักษณะข้อเสื่อมจากภาพถ่ายรังสีได้ร้อยละ 70 นอกจากนี้ โรคข้อเสื่อมพบในเพศหญิงได้มากกว่าเพศชาย โดยเฉพาะข้อเข่าเสื่อมและข้อนิ้วมือเสื่อม
วิธีป้องกันการเกิดโรคข้อเสื่อม
- ควบคุมน้ำหนักตัว เพราะหากข้อเข่าต้องรับน้ำหนักมากทำงานมากขึ้น ก็มีโอกาสข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น
- หมั่นบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อให้แข็งแรง เพื่อช่วยลดภาระของข้อ
- หลีกเลี่ยงการใช้งานข้อหนักเกินไป เช่น การยกของหนัก การนั่งยอง ๆ ขัดสมาธิ คุกเข่า พับเพียบนาน ๆ เพราะข้อจะได้รับแรงกดทับสูงกว่าปกติ ทำให้มีโอกาสเป็นข้อเข่าเสื่อมได้มากขึ้น
- การออกกำลังกายที่หักโหมเกินไป หรือกีฬาที่ใช้แรงปะทะ อาจทำให้ข้อต้องรับน้ำหนักมาก หรือเกิดการยืดหดของข้อถี่เกินไปจึงเสี่ยงต่อการเกิดข้อเสื่อม
วิธีการดูแลตนเองเมื่อเป็นโรคข้อเสื่อม
โรคข้อเสื่อมเป็นโรคที่หากเป็นแล้วรักษาไม่หายขาด แต่สามารถปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับอาการได้ เช่น ลดการใช้งานข้อที่มีอาการ หลีกเลี่ยงการทำให้ข้อบาดเจ็บซ้ำ ๆ หรือการกระทบกระแทกข้อ นอกจากนี้ ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะจะช่วยให้กล้ามเนื้อรอบข้อมีความแข็งแรงขึ้น สามารถทนต่อการใช้งานได้เพิ่มขึ้น การออกกำลังกายแบบลงน้ำหนักเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อต้นขา จะมีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดข้อเข่าเสื่อมได้ สำหรับผู้ที่มีรูปร่างอ้วนการลดน้ำหนักลงจะช่วยลดอาการปวด และชะลอการเสื่อมของข้อได้
การรับประทานอาหาร ควรรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะให้ครบ 5 หมู่ รับประทานอาหารที่ประกอบด้วยแคลเซียม เช่น นม งาดำ ปลาเล็กปลาน้อย หรือรับประทานแคลเซียมเสริม ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดกระดูกพรุน และเสริมความแข็งแรงของข้อกระดูก
โรคข้อเสื่อมเป็นโรคที่หากเป็นแล้วรักษาไม่หายขาด แต่สามารถป้องกันและใช้ชีวิตอยู่กับโรคข้อเสื่อมอย่างมีคุณภาพได้ M TALE CALLAGEN ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ออกแบบมาเพื่อบำรุงข้อและกระดูกโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะวัยทองและผู้สูงอายุ ทั้งเพื่อป้องกันและบำรุงข้อไปพร้อม ๆ กัน M TALE CALLAGEN ประกอบไปด้วยทรูแคล (TRUCAL®) แคลเซียมสกัดจากน้ำนมธรรมชาติ นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยบำรุงข้อมากถึง 6 ชนิด ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี และทองแดง “ยูซีทู (UCII)” คอลลาเจนชนิดที่ 2 จากการวิจัยพบว่าช่วยซ่อมแซมและบำรุงข้อ ลดการอักเสบและอาการปวดของข้อ ช่วยให้ข้อเคลื่อนไหวได้สะดวก นอกจากนี้ งาดำและสารสกัดจากเปลือกสนธรรมชาติ ยังช่วยลดการอักเสบของข้อ บรรเทาอาการปวดได้อีกด้วย
เอกสารอ้างอิง