“วัยทอง” เป็นช่วงเวลาที่มนุษย์เราผ่านช่วงวัยกลางคน ส่วนใหญ่วัยทองมักประสบกับการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และการปรับตัวเข้ากับสังคม เนื่องจากฮอร์โมนเพศที่ลดลงจากความเสื่อมตามธรรมชาติของร่างกาย จึงส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต อาการวัยทองอาจเกิดได้กับทั้งเพศหญิงและเพศชาย ส่วนใหญ่อาการวัยทองในผู้หญิงจะชัดเจนและส่งผลกระทบมากกว่า บางคนอาจไม่มีอาการเลย หรืออาจมีอาการมากจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน
อาการวัยทองที่พบได้บ่อย เช่น อาการร้อนวูบวาบ เกิดได้ทั้งกลางวันและกลางคืน พบได้บ่อยที่สุดในบรรดาอาการทั้งหมด และเป็นอาการที่ส่งผลให้คุณภาพชีวิตลดลง เหงื่อออกในตอนกลางคืน นอนไม่หลับ กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะบ่อย ปวดศีรษะไมเกรน ปวดกระดูกและข้อ เป็นโรคกระดูกพรุน อาการทางจิตใจ เช่น หงุดหงิดง่าย มีอาการซึมเศร้า และสมาธิสั้น โดยพบว่าอาการซึมเศร้าเป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด และมีผลต่อการอยู่ในสังคมมากที่สุด
ในเพศหญิง พบว่าหากประจำเดือนขาดหายต่อเนื่องจะเรียกว่าเข้าสู่วัยทองอย่างสมบูรณ์ โดยส่วนใหญ่จะมีอาการเจ็บปวดเวลามีเพศสัมพันธ์และไม่ถึงจุดสุดยอด ระคายเคืองบริเวณช่องคลอด
ในเพศชาย พบว่ามวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อลดลง ไขมันสะสมรอบเอวเพิ่มขึ้น บางส่วนอาจมีภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ นกเขาไม่ขัน เป็นต้น
หากมีอาการวัยทองแล้วไม่รีบรักษา จะส่งผลให้เกิดภาวะโรคกระดูกพรุน เนื่องจากในวัยทองอัตราการสร้างและการทำลายกระดูกจะไม่สมดุลกัน จึงส่งผลให้มีการทำลายกระดูกมากขึ้นและสร้างได้น้อยลง มวลกระดูกโดยรวมจึงลดน้อยลงกลายเป็นโรคกระดูกพรุนในที่สุด หากเกิดการกระดูกหักจะส่งผลให้มีภาวะแทรกซ้อนตามมา เกิดภาวะทุพพลภาพหรือเสียชีวิตได้ภายในระยะเวลา 1-2 ปี
โรคซึมเศร้า เนื่องจากร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน และความสัมพันธ์ระหว่างคนรอบข้าง จึงนำไปสู่การเกิดโรคซึมเศร้าได้ หากปล่อยไว้นานอาการอาจรุนแรงถึงขั้นฆ่าตัวตายได้
โรคมะเร็งต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งลำไส้ และมะเร็งท่อน้ำดี
ปัญหาด้านระบบทางเดินปัสสาวะ
โรคต่อมลูกหมากโต
ทราบได้อย่างไรว่าเป็นวัยทองหรือไม่ ?
หากท่านมีอายุ 50 ปีขึ้นไป และมีอาการดังที่ได้กล่าวข้างต้น อาจเป็นตัวบอกได้ว่าท่านเป็นวัยทอง ทั้งนี้ หากอาการไม่ได้มีผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน อาจไม่ต้องรับการรักษา เพียงดูแลเรื่องการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และดูแลสุขภาพออกกำลังกายสม่ำเสมอก็อาจเพียงพอ แต่หากท่านรู้สึกว่าอาการเป็นมากจนส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน แนะนำว่าท่านควรปรึกษาแพทย์หรือใช้ตัวช่วยอื่น ๆ เพื่อบรรเทาอาการ ทั้งนี้ แพทย์ส่วนใหญ่จะประเมินว่าท่านควรรับการรักษาวัยทองหรือไม่ โดยการพูดถึงอาการและผลกระทบต่าง ๆ ที่มีผลกับชีวิตประจำวัน
การรักษาอาการวัยทอง...รับประทานฮอร์โมนทดแทนเสริมดีหรือไม่ ?
การใช้ฮอร์โมนเสริมในวัยทอง ได้แก่ ฮอร์โมนเอสโตรเจนในเพศหญิง และฮอร์โมนแอนโดรเจนในเพศชาย อาจมีความจำเป็นในบางรายที่มีอาการมาก ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และอาการมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยการใช้ควรอยู่ใต้ความดูแลของแพทย์ ซึ่งต้องรับประทานรักษาต่อเนื่องอาจต้องใช้ตลอดชีวิตเพื่อควบคุมอาการ โดยค่ายาในการรักษาอยู่ที่ประมาณเดือนละ 300-2000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและชนิดยาที่ใช้ โดยราคาดังกล่าวไม่รวมค่าแพทย์ นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องของอาการข้างเคียงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น คลื่นไส้ เวียนศีรษะ รวมถึงความเสี่ยงในการเกิดโรคลิ่มเลือดอุดตันและโรคมะเร็ง เป็นต้น ดังนั้น ควรใช้ฮอร์โมนทดแทนในกรณีจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น
ในกรณีวัยทองบางคนอาจไม่จำเป็นต้องกินฮอร์โมนทดแทน โดยเฉพาะผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่มีประวัติความเสี่ยงของการเป็นโรคกระดูกพรุนในครอบครัว ไม่มีปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน และโรคไขมัน รวมถึงไม่มีอาการของโรควัยทองใด ๆ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องรักษา อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ หรือรู้สึกว่าเริ่มมีอาการวัยทองและมีความกังวล อาจพิจารณาอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ คือ การรับประทาน “M TALE CORDYCEPS PLUS GOJIBERRY” และ “M TALE CALLAGEN” ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงร่างกายสำหรับหญิงและชายวัย 40+ ที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ โดยไม่มีส่วนผสมของยาเคมี เพื่อสุขภาพของวัยทองที่แข็งแรงอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
แหล่งอ้างอิง
1. National Institute for Health and Care Excellence. https://www.nice.org.uk/guidance/ng23/resources/menopause-diagnosis-and-management-pdf-1837330217413
2. The American College of Obstetricians and Gynecologists. https://www.acog.org/-/media/For-Patients/faq047.pdf?dmc=1&ts=20200206T0842076252
3. Royal College of Obstetricians and Gynaecologists. https://www.rcog.org.uk/globalassets/documents/patients/patient-information-leaflets/gynaecology/pi-treatment-symptoms-menopause.pdf