วิธีรักษาสมดุลฮอร์โมนอย่างยั่งยืนสำหรับวัย 40+

 

          ฮอร์โมน  ทำหน้าที่สื่อสารและควบคุมการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติ  ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ  ซึ่งหากฮอร์โมนหมดไปหรือไม่สมดุล  ก็จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกายในหลายอวัยวะ  การหลั่งฮอร์โมนจะลดลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะวัย 40+  ส่งผลให้ฮอร์โมนไม่สมดุลหรือหมดไป  ทำให้เกิดความผิดปกติต่าง ๆ ของร่างกายตามมา  หากร่างกายมีระดับฮอร์โมนที่ผิดปกติ  จะส่งทำให้คุณภาพชีวิตลดลงซึ่งส่งผลทั้งร่างกายและจิตใจ

ฮอร์โมนเพศหญิง

ฮอร์โมนเพศหญิง  ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน  และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน

ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen)  ทำหน้าที่หลักในการควบคุมอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับระบบเจริญพันธุ์  และมีผลต่ออวัยวะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระดูก  หัวใจ  และสมอง  ฮอร์โมนเอสโตรเจนส่วนใหญ่สร้างมาจากรังไข่  โดยจะเริ่มผลิตฮอร์โมนตั้งแต่เริ่มเข้าสู่วัยสาว  และจะลดลงเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป  และหยุดผลิตอย่างถาวรเมื่อถึงวัยหมดประจำเดือน  ดังนั้น  เมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจนหมดลงจึงทำให้วัย 40+  มีความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน  โรคอัลไซเมอร์  รวมถึงโรคหัวใจและหลอดเลือดตามมา

ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone)  เป็นฮอร์โมนที่สร้างจากรังไข่  ควบคุมโดยต่อมใต้สมอง  และสมองส่วนไฮโปธาลามัส  มีหน้าที่ช่วยทำให้ผู้หญิงมีประจำเดือนเป็นรอบ ๆ  นอกจากนี้  สมองส่วนไฮโปธาลามัส  ยังเป็นสมองที่ควบคุมอารมณ์และจิตใจ  ดังนั้น  ความเครียดและอารมณ์ที่เศร้าหมองจึงมีผลกระทบกับประจำเดือน  ทำให้ประจำเดือนเลื่อนหรือขาดหายในบางรอบเดือนได้  นอกจากนี้  เมื่อถึงวัยหมดประจำเดือนฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะค่อย ๆ ลดลงจนหมดไปในที่สุด  เพราะรังไข่หยุดทำงาน  ซึ่งเรียกภาวะดังกล่าวว่าวัยหมดประจำเดือน  หรือวัยทองนั่นเอง  โดยหลาย ๆ ครั้งอาจทำให้คนวัย 40+  ที่หมดประจำเดือนเกิดภาวะซึมเศร้าตามมาได้ง่ายกว่าปกตินั่นเอง

พบว่าภาวะฮอร์โมนเพศหญิงต่ำ  เป็นสาเหตุของอาการต่าง ๆ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ดังนี้

อาการทางร่างกาย

- ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ  อาจขาดหายในช่วงแรก  และค่อย ๆ หมดไปอย่างถาวร

- ช่องคลอดแห้ง  ความรู้สึกทางเพศลดลง  เจ็บแสบขณะมีเพศสัมพันธ์

- มีอาการร้อนวูบวาบ  เหงื่อออกตอนกลางคืน

- ปวดศีรษะ  เวียนศีรษะ

- น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น

- ผิวหนังมีริ้วรอย

- กลั้นปัสสาวะไม่อยู่  ถ่ายปัสสาวะบ่อย  ไอจามมีปัสสาวะเล็ด

- ปวดหลัง  ปวดตามข้อและตามกล้ามเนื้อ  ร่างกาย

 อาการทางจิตใจ

- วิตกกังวล

- อารมณ์แปรปรวน  หงุดหงิดง่าย  ไม่สามารถจัดการความเครียดได้

- ซึมเศร้า  ไม่รื่นเริง

- นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท

- หลงลืมง่าย  สมาธิสั้น

ฮอร์โมนเพศชาย

ฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรน (Testosterone)  เป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทเพศที่สำคัญที่สุดของผู้ชาย  มีหน้าที่สำคัญช่วยกระตุ้นให้แสดงลักษณะความเป็นชาย  และทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง  มีสุขภาพที่สมบูรณ์  ซึ่งรวมไปถึงเรื่องความต้องการทางเพศ  การสร้างเชื้ออสุจิ  ปริมาณของขน/ผมตามร่างกาย  กล้ามเนื้อและกระดูก  โดยสมองจะควบคุมการสร้างฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรนซึ่งผลิตจากลูกอัณฑะ  ฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรน  ยังเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี  และช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน

พบว่าภาวะฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำหรือภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ  เป็นสาเหตุของอาการต่าง ๆ ดังนี้

- ความต้องการทางเพศลดลง

- ภาวะกระดูกพรุน  ความอ่อนแอและการแตก/เปราะของกระดูก

- ภาวะอวัยวะเพศชายแข็งตัวได้ไม่สมบูรณ์

- ปริมาณของตัวอสุจิมีจำนวนน้อย

- หน้าอกโตขึ้น

- อารมณ์หงุดหงิดง่าย

- ขี้ร้อน  หรือร้อนวูบวาบ

          สำหรับวัย 40+  อยากให้ลองสังเกตตัวเองสักนิดนะคะ  ว่าอารมณ์ช่วงนี้ขึ้น ๆ ลง ๆ ง่ายหรือเปล่า  คนรอบข้างหนีหน้าเพราะรู้สึกว่าคุณมีอารมณ์แปรปรวน  แบบเลือดจะไปลมจะมาหรือไม่  มีอาการร้อนวูบวาบบ่อย ๆ  หรือประจำเดือนหมดไปในเพศหญิง  ถ้าคำตอบคือ “ใช่”  เราไม่อยากให้คุณนิ่งนอนใจ  ควรรีบหาวิธีเพื่อปรับสมดุลฮอร์โมน  เพื่อให้คุณสามารถก้าวผ่านช่วงวัยทองได้อย่างมีความสุขค่ะ

สำหรับวิธีปรับสมดุลฮอร์โมนอย่างง่าย ๆ  สามารถทำได้ดังนี้

1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่  โดยเฉพาะนม  ไข่  ผักใบเขียว  ผลไม้  ธัญพืช  และไขมันตัวดี  เช่น  ปลาทะเลน้ำลึก

2. รับประทานอาหารให้เป็นเวลา  การรับประทานอาหารให้เป็นเวลานอกจากจะช่วยให้ระบบการย่อยอาหาร  และระบบขับถ่ายเป็นปกติแล้ว  ยังช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนต่าง ๆ ได้เป็นปกติด้วยค่ะ

3. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์  และการสูบบุหรี่  เพราะเป็นสาเหตุของสารอนุมูลอิสระในร่างกาย  ส่งผลให้สมดุลฮอร์โมนผิดปกติ

4. การรับประทานแคลเซียมเสริม  จัดว่าเป็นประโยชน์สำหรับวัย 40+ อย่างยิ่ง  เพราะฮอร์โมนที่ช่วยสร้างแคลเซียมมีปริมาณลดลง  กระดูกบางลง  ดังนั้น  การรับประทานแคลเซียมที่มีประโยชน์จากธรรมชาติ  จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดกระดูกหักได้

5. การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  อย่างน้อยวันละ 30 นาที  3-4 ครั้งต่อสัปดาห์  จะช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุข  กล้ามเนื้อแข็งแรง  ช่วยให้ร่างกายกระปรี่กระเปร่าค่ะ

6. การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ  นอนตรงเวลาของทุกวัน  ไม่เล่นโทรศัพท์ก่อนนอน  จะช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น  ตื่นเช้าอย่างสดชื่น

7. หลีกเลี่ยงการนอนหลับไม่ตรงเวลา  เช่น  กลุ่มคนที่ทำงานกะดึกเป็นประจำ  ชอบนอนกลางวันและตื่นกลางคืน  เมื่อมีพฤติกรรมการนอนผิดปกติอย่างนี้บ่อย ๆ  จะส่งผลให้ฮอร์โมนของร่างกายหลั่งไม่เป็นเวลา  ร่างกายเกิดความเสื่อมได้ง่ายกว่าปกติ  เพราะร่างกายไม่เกิดการซ่อมแซมตามธรรมชาติ

8. การทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบและการเข้าสังคม  จะช่วยให้ตัวเรามีความสุขมากขึ้น  ลดความเครียดและอารมณ์ด้านลบได้ค่ะ

9. หลีกเลี่ยงความเครียด  ลดความวิตกกังวล  ทำจิตใจให้เบิกบานสดใส  การปรับอารมณ์ของตัวเองให้สดชื่นเป็นประจำ  จะช่วยลดภาวะอารมณ์ด้านลบ  และความหงุดหงิดต่าง ๆ  เสริมอารมณ์ด้านบวกได้

          นอกเหนือจากการปรับพฤติกรรมของตนเอง  ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร  การออกกำลังกาย  และปรับเปลี่ยนอารมณ์ของตนเองแล้ว  การรับประทานอาหารเสริมอื่น ๆ  เช่น  สารสกัดจากโกจิเบอร์รี่  โสมเกาหลี  และถั่งเช่าทิเบต  ก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างสมดุลฮอร์โมนอย่างยั่งยืน  ซึ่งสามารถรับประทานเสริมได้จากผลิตภัณฑ์  “M TALE CORDYCEPS PLUS GOJIBERRY"  ซึ่งประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติหลากหลายชนิดเพื่อปรับสมดุลฮอร์โมน  นอกจากนี้  การรับประทาน  “M TALE CALLAGEN”  ร่วมด้วยจะช่วยเสริมแคลเซียม ทำให้กระดูกและข้อแข็งแรงได้อย่างเป็นธรรมชาติ  สำหรับ  “PROFIBERRY”  ประกอบด้วยโพรไบโอติกจุลินทรีย์ตัวดี  ที่ช่วยปรับสมดุลของเชื้อจุลินทรีย์ในลำไส้  และพรีไบโอติกส์ที่ช่วยให้โพรไบโอติกแข็งแรง 

          หากบริหารร่างกายและจิตใจตนเองได้อย่างถูกต้อง  ร่วมกับรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้อย่างเหมาะสม  ก็จะช่วยสร้างสมดุลฮอร์โมนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน  เพื่อสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอกอย่างแท้จริงค่ะ

เอกสารอ้างอิง
1. Anesth Pain Med. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4493737/. June 2015.
2. Behealthytoday. https://behealthytoday.us/blogs/health/acerola-cherry-content-benefits. 12 February 2017.
3. Hopkinsmedicine. https://www.hopkinsmedicine.org/health/conditions-and-diseases/adrenal-glands. Access online 2021.
4. Medlineplus. https://medlineplus.gov/ency/article/002399.htm. Access online: 3 Dec 2019.
5. Webmd. https://www.webmd.com/vitamins/ai/ingredientmono-936/dong-quai. Access online: 3 Dec 2019.
6. Winchesterhospital. https://www.winchesterhospital.org/health-library/article?id=104666. Access online: 3 Dec 2019.
7. https://www.yourhormones.info/glands/adrenal-glands/. January 2018.