โกจิเบอร์รี่ (GOJI BERRY) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “เก๋ากี้” โดยเจ้าโกจิเบอร์รี่ที่มีลักษณะเป็นเมล็ดสีแดงแม้จะมีขนาดเล็ก แต่เรียกได้ว่าเป็นผลไม้ที่ “จิ๋วแต่แจ๋ว” เนื่องจากในโกจิเบอร์รี่มีฤทธิ์ช่วยส่งเสริมสุขภาพ ลดการสร้างอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านริ้วรอยให้ผิวอ่อนเยาว์กว่าวัย สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันลดต่ำลง เช่น วัย 40+ วัยทอง วัยสูงอายุ ผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือแม้แต่ผู้ที่รักสุขภาพและอยากดูแลสุขภาพอย่างเต็มที่เป็นต้น นอกจากนี้ โกจิเบอร์รี่ยังช่วยลดความเมื่อยล้าอ่อนเพลีย เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อและกระดูก ช่วยให้เหงือกแข็งแรง ลดความเสี่ยงในการเกิดเนื้องอก และปรับสมดุลฮอร์โมนได้ดีอีกด้วย
โกจิเบอร์รี่ประกอบด้วยกรดอะมิโน ที่ร่างกายต้องการมากถึง 18 ชนิด ซึ่งมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย (ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ต้องรับจากอาหารเท่านั้น) มากถึง 8 ชนิด และยังประกอบด้วยแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 20 ชนิด เช่น เหล็ก ทองแดง สังกะสี แคลเซียม ซีลีเนียม และฟอสฟอรัส เป็นต้น ซึ่งช่วยส่งเสริมให้ร่างกายมีสุขภาพดี ทำให้การทำงานของร่างกายเป็นปกติ เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารได้น้อยลง หรือเกรงว่าจะขาดแร่ธาตุอาหารจากการรับประทานผัก/ผลไม้ไม่เพียงพอ
นอกจากนี้ โกจิเบอร์รี่ยังมีประโยชน์ที่ต่างจากผลไม้อื่น ตรงที่สามารถใช้เป็นโปรตีนทางเลือกทดแทนเนื้อสัตว์ได้ หากทานในปริมาณที่เหมาะสม พบว่าเมื่อร่างกายได้รับกรดอะมิโนที่จำเป็นไม่เพียงพอ ร่างกายจะทำการสลายกล้ามเนื้อ เพื่อให้ร่างกายได้รับกรดอะมิโนจำเป็นเพียงพอตามที่ร่างกายต้องการ ผลดังกล่าวจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ ไม่มีเรี่ยวแรง และอาจส่งผลเสียให้ร่างกายขาดสารอาหารในที่สุด ดังนั้น สิ่งสำคัญสำหรับวัย 40+ ซึ่งมักพบปัญหาทานอาหารไม่ค่อยลงหรือทานได้น้อยลง จึงต้องพยายามรับประทานโปรตีน ในปริมาณที่เพียงพอผ่านอาหารที่มีประโยชน์ โดยข้อเสียอย่างหนึ่งของการได้รับโปรตีนจากเนื้อสัตว์และแหล่งนม คือ ปริมาณไขมันอิ่มตัวที่พบในอาหารเหล่านี้ทำให้ไขมันในเลือดสูงได้ อาจเกิดโรคหลอดเลือดอุดตันตามมา ดังนั้น โกจิเบอร์รี่จึงเป็นโปรตีนทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ เพราะมีทั้งโปรตีนที่สมบูรณ์และมีไขมันอิ่มตัวต่ำ โดยโกจิเบอร์รี่ 1 ออนซ์ (⁓ 28 กรัม) มีโปรตีน 4 กรัม และมีไขมันเพียง 1.4 กรัม เท่านั้น
นอกจากนี้ โกจิเบอร์รี่ยังเป็นแหล่งวิตามินเอที่ดีเยี่ยม เพราะโกจิเบอร์รี่ 1 ออนซ์ให้ปริมาณวิตามินเอสูงถึง 170 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณวิตามินเอที่แนะนำต่อวัน มีปริมาณวิตามินซีต่อน้ำหนักสูงกว่าส้มถึง 500 เท่า นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมวิตามิน B-1, B-2, B-6 และ E อีกด้วย พบว่าการรับประทานโกจิเบอร์รี่ นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังไม่ส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในร่างกายสูง เมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่น และยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ในกลุ่มพอลิฟีนอลและฟลาโวนอยด์สูงกว่าผลไม้ทั่ว ๆ ไป ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดความเสื่อมของร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุของความชราและการเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ
นอกจากนี้ ยังส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัว เลือดจึงไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกายได้ดีขึ้น พบว่าโดยทั่วไปฮอร์โมนเพศในร่างกายจะลดลง เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นทั้งในชายและหญิง โกจิเบอร์รี่จะเข้าไปช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกายให้เป็นปกติ ร่างกายจึงแข็งแรง อาการปวดเมื่อยล้าร่างกายลดลง และยังช่วยให้กระบวนการกำจัดสารอนุมูลอิสระในร่างกาย มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
การรับประทานโกจิเบอร์รี่อย่างสม่ำเสมอยังช่วยบำรุงร่างกาย ทำให้สุขภาพร่างกายโดยรวมแข็งแรงมากขึ้นด้วย โกจิเบอร์รี่ยังประกอบด้วยสารจำพวกลูทีน (lutein) ในปริมาณสูง จึงช่วยป้องกันการเสื่อมของลูกตาและเรตินาจากอนุมูลอิสระได้ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดตาบอดตอนกลางคืน ช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้ ยังมีเบต้าแคโรทีนสูง ซึ่งจะถูกเปลี่ยนไปเป็นวิตามินเอ จึงมีประโยชน์ช่วยบำรุงให้การมองเห็นดีขึ้น และบรรเทาอาการตาบอดกลางคืน จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับวัย 40+ ที่เริ่มพบปัญหาการมองเห็นที่แย่ลง
M TALE CORDYCEPS PLUS GOJIBERRY ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารระดับพรีเมี่ยม เหมาะสำหรับวัย 40+ และผู้ที่ต้องการการดูแลสุขภาพอย่างครบถ้วน มีส่วนประกอบปริมาณพอเพียงจากสารสกัดโกจิเบอร์รี่ธรรมชาติแท้ 100% การที่ M TALE เลือกใช้โกจิเบอร์รี่ในรูปแบบสารสกัดเข้มข้น เนื่องจากมีข้อดีที่ช่วยให้โกจิเบอร์รี่มีความเข้มข้นสูง ปริมาณสารสำคัญออกฤทธิ์เยอะ ดูดซึมได้ง่ายกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการรับประทานแบบเป็นผลสด หรือรูปแบบอื่น ๆ
เนื่องจากโกจิเบอร์รี่ที่นิยมนำมาทานกันแบบผลไม้แห้ง หรือผสมในขนม/อาหารต่าง ๆ มักมีการใส่สารถนอมอาหาร หรือปรุงแต่งให้มีสีสวยน่ารับประทาน แต่มักไม่ค่อยได้รับความนิยมเพราะรสชาติไม่อร่อย และต้องรับประทานเป็นจำนวนมาก เพื่อให้ได้ประโยชน์มากเพียงพอกับความต้องการ ทำให้ไม่สะดวก
พบว่าการรับประทานโกจิเบอร์รี่ชนิดที่เป็นสารสกัด จะมีสารโพลีแซคคาร์ไรค์ วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ เข้มข้นกว่าชนิดผลแห้ง ประมาณ 4-10 เท่า ร่างกายดูดซึมสารสกัดได้ดี และรวดเร็วกว่า เนื่องจากอยู่ในรูปผงบดละเอียด มีการแยกกากส่วนเกินออก แล้วนำส่วนน้ำคั้นที่ได้ไปทำให้แห้ง จึงทำให้ได้สารสกัดที่มีความเข้มข้นสูง นอกจากนี้ ยังช่วยรักษาความคงตัวและสารอาหารต่าง ๆ ในโกจิเบอร์รี่ไว้ได้อย่างครบถ้วน จึงมั่นใจได้ในคุณภาพ M TALE CORDYCEPS PLUS GOJIBERRY เหมาะอย่างยิ่งสำหรับวัย 40+ เราจะช่วยให้คุณกลับมาแข็งแรงมีสุขภาพดีอีกครั้งค่ะ
แหล่งอ้างอิง
1. Healthyeating. https://healthyeating.sfgate.com/essential-amino-acids-goji-berries-2252.html, 2021
2. Myfooddata. https://tools.myfooddata.com/protein-calculator/173032/wt1/1/1
3. Oxid Med Cell Longev, https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6343173/#:~:text=The%20high%20biological%20activity%20components,in%20goji%20berries%20is%20polysaccharides., 2019.
4. Ptwcare. https://ptwcare.com/goji-berries-7-reasons-its-a-super-snack/
5. The World Journal of Men's Health, https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5419117/pdf/wjmh-35-43.pdf, 2017