ในวัยทองหรือช่วงอายุ 40 - 45 ปีขึ้นไป ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยมีการผลิตฮอร์โมนเพศลดลง ส่งผลให้มีปัญหาสุขภาพตามมา การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อปัญหาผมร่วงผิดปกติ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง บางคนร่วงเป็นบางช่วง หรือบางคนอาจมีภาวะผมร่วงเรื้อรัง ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากการเข้าสู่วัยทองนั่นเอง
ผมหลุดร่วงในวัยทองพบในใครได้บ้าง
ผมหลุดร่วงในวัยทองส่วนใหญ่มักพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง โดยมากกว่า 80% ของเพศชายจะพบผมร่วง ผมบางจากพันธุกรรม ซึ่งส่วนมากจะเริ่มแสดงอาการตั้งแต่ช่วงอายุประมาณ 30 - 40 ปีขึ้นไป โดยเกิดจากการที่หนังศีรษะมีความไวต่อฮอร์โมนเพศชายหรือฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (testosterone) มากกว่าปกติ ส่งผลให้เส้นผมมีขนาดเล็ก บาง หยาบกร้าน ชี้ฟู รวมถึงหลุดร่วงง่ายขึ้น อาการดังกล่าวเมื่อร่วมกับฮอร์โมนเพศที่ลดต่ำลงในช่วงวัยทอง จึงยิ่งซ้ำเติมให้ผมอ่อนแอและบางลง
สำหรับในเพศหญิง เมื่อเข้าสู่ภาวะวัยทองจะเกิดภาวะฮอร์โมนเพศหญิง หรือฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) และโพรเจสเตอโรน (progesterone) ลดลงอย่างมาก โดยฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผม และทำให้เส้นผมมีความแข็งแรง เมื่อฮอร์โมนเพศลดลงจึงทำให้เกิดอาการผมร่วง ผมบางได้ แต่อาการมักไม่รุนแรงเท่าในเพศชาย
การดูแลรักษาผมร่วงในวัยทอง
ปัญหาผมร่วงในวัยทองสามารถแก้ไข หรือชะลอไม่ให้อาการยิ่งรุนแรงไปกว่าเดิมได้โดย
1. การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ เป็นประจำ
2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอในปริมาณที่เหมาะสมอย่างน้อย 3 - 4 ครั้ง/สัปดาห์
3. การรับประทานวิตามินและแร่ธาตุเสริม โดยเฉพาะซิงค์หรือแร่ธาตุสังกะสี พบว่าการขาดแร่ธาตุดังกล่าวเป็นสาเหตุทำให้ผมหลุดร่วง ขาดเปราะ และอ่อนแอได้
4. ในบางรายหากมีอาการผิดปกติ เช่น ผมร่วงมากผิดปกติ มีการอื่นร่วมด้วย เช่น อาการคัน หนังศีรษะลอก มีรังแค ควรพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจวิเคราะห์สภาพเส้นผม หนังศีรษะ และตรวจร่างกาย เพื่อหาสาเหตุของปัญหาและสามารถแก้ไขให้ตรงจุด ซึ่งในปัจจุบันวิธีที่นิยมรักษาก็ได้แก่ การทายา การรับประทานอาหารเสริม หรือการใช้ฮอร์โมนทดแทน
ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง
1. ควรสระผมทำความสะอาดเส้นผมและผิวหนังของศีรษะอย่างสม่ำเสมอ
2. หลังสระผมควรทำให้หนังศีรษะแห้งทุกครั้ง ไม่ควรนอนในขณะที่ผมยังเปียก เพราะอาจเป็นสาเหตุของเชื้อราบนหนังศีรษะได้
3. หลีกเลี่ยงการดึงหรือถอนผมเล่น หลีกเลี่ยงความเครียด เพราะจะกระตุ้นให้อาการผมร่วงมากขึ้น
3. ไม่ควรเกาหรือขยี้หนังศีรษะแรงจนเกินไป หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกับหนังศีรษะ เช่น การย้อม ทำสี ดัด ผมที่บ่อยเกินไป
4. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารทอด ของมัน อาหารฟาสต์ฟู๊ดมากเกินไป เพราะเป็นสาเหตุของการเกิดผมหลุดร่วงได้
M TALE CORDYCEPS PLUS GOJIBERRY ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารระดับพรีเมี่ยม ประกอบด้วยสังกะสี (zinc) ขนาด 50 มิลลิกรัม เป็นแร่ธาตุสำคัญในการสร้างโปรตีน คอลลาเจนและ DNA ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตและซ่อมแซมการทำงานให้เป็นปกติ สังกะสียังเป็นส่วนประกอบของเอนไซม์สำคัญมากมาย รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระซูเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเทส (SOD) จึงช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ชะลอความแก่ชรา และลดการเกิดสิว
โกจิเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มพอลิฟีนอล (Polyphenol) และ ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ช่วยลดความเสื่อมของร่างกาย ทำให้ร่างกายฟื้นฟูได้ดีขึ้น มีสาร Polysaccharides จึงช่วยกระตุ้นให้เซลล์เม็ดเลือดขาวทำงานได้ดี ร่างกายจึงมีภูมิคุ้มกัน ช่วยกระตุ้นการเจริญของเส้นผมได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
โสมช่วยให้เลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงเส้นผม ลดปัญหาผมหลุดร่วง ขาดง่าย กระตุ้นการสร้างเส้นผมใหม่ M TALE CORDYCEPS PLUS GOJIBERRY ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ 100% โดยไม่มีส่วนผสมของยาเคมี จึงออกฤทธิ์บำรุงร่างกายแบบค่อยเป็นค่อยไปตามวิถีของการใช้อาหารจากธรรมชาติ ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะพบว่าอาการอ่อนเพลียลดลง นอนหลับสนิทมากขึ้น สุขภาพผมแข็งแรง ลดปัญหาผมหลุดร่วงขาดง่าย ผิวกลับมาชุ่มชื่นมีเลือดฝาด การมองเห็นและความจำดีขึ้น ทำให้สุขภาพกลับมาแข็งแรงดังเช่นวัยหนุ่มสาวอีกครั้ง
แหล่งอ้างอิง
1. https://foodinsight.org/4-nutrients-to-eat-for-better-skin-hair/. October 15, 2021.
2. https://www.healthline.com/nutrition/best-vitamins-hair-growth. August 17, 2021.
3. https://www.healthline.com/health/menopause/hair-loss. April 1, 2019.
4. https://patient.info/news-and-features/does-the-menopause-cause-hair-loss#:~:text=%22Hair%20loss%20during%20menopause%20is,much%20thinner%2C%22%20Denning%20explains. 30 January, 2019.