ในช่วงนี้หลาย ๆ คนน่าจะเห็นข่าวกระแสของการโฆษณาผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าที่มีการพูดถึงสรรพคุณต่าง ๆ และช่วยบำรุงร่างกาย ซึ่งเป็นข้อถกเถียงกันพอสมควรว่า ตกลงแล้ว “ถั่งเช่า” มีประโยชน์ ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และข้อควรระวังในการรับประทานอย่างไรบ้าง วันนี้เราจะมาพูดถึงประเด็นเกี่ยวกับ “ถั่งเช่า” อย่างถูกต้องไปพร้อม ๆ กันครับ
ประโยชน์ของ “ถั่งเช่า-หญ้าหนอน”
“ถั่งเช่า” "หญ้าหนอน" หรือ "ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า" นั้น ถือว่าเป็นยาสมุนไพรแถบทิเบตที่หายากและมีราคาแพง ถูกใช้อย่างแพร่หลายมานานนับศตวรรษ เนื่องจากมีสารสำคัญต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด เช่น โพลีแซคคาไรค์, นิวคลีโอไทด์, กรดอะมิโน และสเตอรอล แถมยังมีสารอาหารสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ โปรตีน วิตามิน เช่น วิตามินอี เค บี 1 บี 12 และแร่ธาตุหลายชนิด เช่น โพแทสเซียม โซเดียม แคลเซียม แมกนีเซียม ซิลิเนียม เหล็ก และสังกะสี เป็นต้น สรรพคุณทางยาแผนโบราณที่ชาวจีนมีความเชื่อและใช้กันแพร่หลาย และใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย ปรับสมดุลของร่างกาย กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ต้านมะเร็ง ลดระดับน้ำตาลในเลือด และต้านการอักเสบ ซึ่งหลายสรรพคุณได้มีการวิจัยในหลอดทดลองหรือทางคลินิกช่วยยืนยันสรรพคุณดังกล่าว จึงยิ่งช่วยเสริมความนิยมในหมู่ผู้คนทั่วโลกมากขึ้นไปอีก
ประเด็นคำถาม “โลหะหนักในถั่งเช่า” อันตรายจริงหรือไม่?
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ถั่งเช่าได้พบเจอความท้าทาย จากกรณีที่มีผู้ใช้โซเชียลรายหนึ่งโพสต์ว่า “พ่อทานอาหารเสริมถั่งเช่าแล้วแน่นหน้าอก หายใจลำบากต้องเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน จากนั้นมีอาการน้ำท่วมปอด ค่าการกรองของไตต่ำ ไตวายระยะสุดท้าย หมอตรวจเจอสารพิษในร่างกายมีปริมาณเยอะมาก และในเวลาไล่เลี่ยกันยังมีคำเตือนจากนิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคระบุว่า การรับประทานถั่งเช่าสกัดต่อเนื่องเสี่ยงไตวาย ทำให้เกิดการถกเถียงถึงประโยชน์และโทษของการใช้ถั่งเช่ากันอีกครั้ง
ถั่งเช่า หรือหญ้าหนอน พบได้เฉพาะในทุ่งหญ้าที่มีความสูงตั้งแต่ 3,500 เมตรขึ้นไป และจะเติบโตได้เฉพาะในที่อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง แต่พื้นดินต้องไม่กลายเป็นน้ำแข็ง เช่น ในพื้นที่ทิเบต จีน แถบเทือกเขาหิมาลัยในอินเดีย ภูฏาน และเนปาล โดยพบว่าถั่งเช่าที่เก็บเกี่ยวได้จากธรรมชาติมักมีสารหนูและโลหะหนักอื่น ๆ ปนเปื้อนในปริมาณสูง จึงอาจเป็นพิษต่อร่างกายได้ ดังนั้น ตั้งแต่ พ.ศ. 2559 เป็นต้นมา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของจีน (CFDA) ได้ควบคุมการจำหน่ายถั่งเช่าอย่างเข้มงวด และนำถั่งเช่าออกจากประเภทอาหารเพื่อสุขภาพ รวมทั้งออกคำแนะนำในการบริโภคผลิตภัณฑ์ถั่งเช่า โดยระบุว่า “ในถั่งเช่าแห้งและแคปซูลผงถั่งเช่าบริสุทธิ์มีปริมาณสารหนู 4.4 - 9.9 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม” และ “มีความเสี่ยงสูงในการบริโภค” เมื่อเร็ว ๆ นี้มีข่าว “ถั่งเช่าทิเบตที่เก็บเกี่ยวจากพื้นดินในประเทศทิเบต พบว่ามีโลหะหนักปนเปื้อนสูงจากสภาพแวดล้อมของพื้นดินโดยรอบ” และถังเช่าแบบตัวแท้ ๆ การเก็บรักษาจะยาก มอดและแมลงเล็ก ๆ ขึ้นง่าย เลยมีคนเอากำมะถันไปพ่น-เคลือบ ให้เก็บได้นาน มอดไม่ขึ้นทำให้โลหะหนักยิ่งมากขึ้นอีก ส่งผลเสียต่อร่างกายและการทำงานของไตได้ ซึ่งถั่งเช่าจากธรรมชาติแท้ ๆ นั้นมีราคาแพงมากหลักกิโลกรัมละ 700,000-1,000,000 บาท ++ และพบปัญหาโลหะหนักปนเปื้อน
อย่างไรก็ตาม ด้วยนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่สามารถเพาะเลี้ยงถั่งเช่าสายพันธุ์ทิเบตเช่นเดียวกับที่พบได้ในธรรมชาติ โดยนำมาเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการที่มีนวัตกรรมสมัยใหม่เข้ามาช่วยให้ถั่งเช่าสามารถเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งสามารถแก้ปัญหาโลหะหนักปนเปื้อนจากพื้นดินได้และราคาของถั่งเช่าก็ยังลดลงอีกด้วย โดยถั่งเช่าที่ M TALE CORDYCEPS PLUS GOJIBERRY เลือกใช้ในการผลิตเป็นส่วนประกอบนั้นเป็น “ถั่งเช่าสายพันธุ์ทิเบตแท้ 100% ที่ใช้การเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการ” เพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพของสารสำคัญและคุณประโยชน์ต่าง ๆ ไว้ได้อย่างครบถ้วน มีความสะอาด ปลอดภัย และไม่มีโลหะหนักปนเปื้อน ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานขององค์การอาหารและยาของประเทศไทย จึงแนะนำว่าควรเลือกซื้อถั่งเช่าสายพันธุ์ทิเบตแท้ที่เพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการซึ่งปราศจากโลหะหนักอย่างแท้จริง
แนะนำวิธีการรับประทานถั่งเช่าอย่างปลอดภัย
อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้ออกมาพูดถึงถั่งเช่า โดยนำเอาข้อมูลจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลมาอ้างอิง โดยสรุปว่า “ถ้าเป็นคนปกติธรรมดา ร่างกายแข็งแรง ก็สามารถรับประทานถั่งเช่าเป็นอาหารเสริมได้ในปริมาณที่เหมาะสม แต่ถ้าใครมีโรคประจำตัวอยู่ หรือคนที่มีความเสี่ยงต่าง ๆ ตามในข้อมูลที่เป็นข่าวก็ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนใช้” ดังนั้น การใช้ถั่งเช่าก็ต้องระมัดระวังการใช้โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไตหรือผู้สูงอายุ โดยมีข้อควรระวังเพิ่มเติม ดังนี้
สำหรับในกรณีของผู้ป่วยที่เป็นโรคไต สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ข้อมูลว่าสามารถรับประทาน “ถั่งเช่า” เพื่อช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยปรับสมดุลการทำงานของระบบทางเดินปัสสาวะให้ดีขึ้นได้ โดยเป็นการใช้ในลักษณะการช่วยเสริมการรักษาหลักให้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น จึงห้ามละทิ้งการรักษาหลักโดยแพทย์ผู้รักษา และจะต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจต้องมีการตรวจติดตามการทำงานของไตอยู่เป็นระยะ ๆ
สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง หรือผู้สูงอายุ การรับประทานถั่งเช่าสามารถรับประทานได้ในปริมาณที่เหมาะสมและควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ โดยใช้เป็นผลิตภัณฑ์ช่วยเสริมการรักษาหลักให้ดียิ่งขึ้น โดยไม่ทิ้งการรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบัน และห้ามใช้ในผู้ที่มีอาการแพ้หรือข้อห้ามใช้
วิธีการเลือกซื้อถั่งเช่า และข้อชี้แจงความปลอดภัยของถั่งเช่าในเอ็ม เทล
หลายคนอาจจะสงสัยว่าควรเลือกซื้อถั่งเช่าอย่างไรจึงจะปลอดภัย สำหรับการเลือกซื้อถั่งเช่าควรเลือกซื้อถั่งเช่าจากแหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ผ่านการรับรองมาตรฐานจากทางอย. ซึ่งจะได้รับใบรับรองมาตรฐานคุณภาพการวิเคราะห์ปริมาณสารปนเปื้อนต่าง ๆ ว่ามีค่าไม่เกินเกณฑ์ที่ทางอย.กำหนด ซึ่งถือได้ว่าผลิตภัณฑ์นั้น ๆ สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโรงงานที่ผ่านมาตรฐาน GMP (Good manufacturing practice) ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานในการผลิตอาหาร เพื่อให้ได้อาหารที่มีมาตรฐานเรื่องความสะอาดและความปลอดภัย เนื่องจากมีการควบคุมคุณภาพการผลิตทุกขั้นตอน มีการตรวจวิเคราะห์ระหว่างการผลิตเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพมากที่สุดสำหรับผู้บริโภค โดยผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลผู้ผลิตได้จากเว็ปไซต์เพื่อตรวจสอบว่าโรงงานดังกล่าวได้รับมาตรฐาน GMP จริงหรือไม่
สำหรับปริมาณถั่งเช่าที่บรรจุต่อแคปซูลควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณถั่งเช่าที่บรรจุไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานตามที่อย.กำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงอาการข้างเคียงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกาย ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวสามารถตรวจสอบได้บริเวณข้างฉลากของผลิตภัณฑ์ โดยผู้บริโภคควรรับประทานถั่งเช่าในปริมาณที่กำหนดข้างฉลาก ไม่ควรรับประทานเกินกว่าที่ระบุไว้เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการรับประทานเกินขนาด
ผลิตภัณฑ์ M TALE CORDYCEPS PLUS GOJIBERRY ผลิตจากถั่งเช่าทิเบตแท้ 100% ซึ่งถูกเพาะเลี้ยงโดยใช้นวัตกรรมสมัยใหม่ โดยยังคงปริมาณสารสำคัญเทียบเท่ากับถั่งเช่าที่มาจากธรรมชาติ แต่ปราศจากโลหะหนักปนเปื้อนซึ่งมีความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังผลิตจากโรงงานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ได้มาตรฐาน GMP และ ISO22000 จึงสามารถการันตีความปลอดภัยและคุณภาพของสินค้าได้ในทุกขั้นตอน เพื่อให้สินค้าที่ออกมาดีที่สุดสำหรับผู้บริโภค
M TALE CORDYCEPS PLUS GOJIBERRY ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อวัย 40+ อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยดูแลสุขภาพของวัย 40+ ทุกท่านให้กลับมามีสุขภาพดี แข็งแรง และปลอดภัยไปด้วยกันครับ
เอกสารอ้างอิง
3. https://www.posttoday.com/world/643112
4. https://cmjournal.biomedcentral.com/articles/10.1186/s13020-018-0196-7