ในวันที่อุณหภูมิของประเทศไทยร้อนทะลุ 40 องศา และนับวันยิ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลต่อสุขภาพ เสี่ยงเกิดการเจ็บป่วยและเสียชีวิตได้ง่าย เพราะอากาศร้อนจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น มีผลกับการทำงานของระบบหัวใจ หลอดเลือด และระบบประสาท โรคที่เกิดจากอากาศร้อนที่พบบ่อยมี 3 โรค ได้แก่ โรคลมแดดหรือฮีทสโตรก โรคเพลียแดด และโรคตะคริวแดด กลุ่มคนที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ คนอ้วน และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ยังพบได้ในผู้ที่ติดเหล้า และผู้ที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน
โรคลมแดด Heat Stroke
เป็นภาวะที่ตัวร้อนจัดแต่ไม่มีเหงื่อ ผิวหนังแดง หัวใจเต้นเร็วและแรง มีอาการทางสมอง เช่น เห็นภาพหลอน สับสน หงุดหงิด ชักหรือหมดสติ ภาวะนี้สามารถทำให้เกิดตับและไตวาย กล้ามเนื้อสลายตัว หัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะ น้ำท่วมปอด เกิดลิ่มเลือดอุดตันในกระแสเลือด และช็อกได้
โรคเพลียแดด
ร่างกายไม่สามารถปรับตัวสู้กับสภาพอากาศที่ร้อนจัดได้ เกิดขึ้นเมื่อร่างกายไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ เกิดการสูญเสียเหงื่อและสารน้ำไปอย่างมาก โดยปกติแล้วร่างกายคนเรามีอุณหภูมิ ประมาณ 36 – 37 °c ในภาวะเพลียแดดร่างกายจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังไม่ถึง 40 °c อาจทำให้เกิดอาการเพลียแดด โดยจะมาพร้อมกับอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ไม่มีแรง แต่ยังรู้สติดีอยู่
โรคตะคริวแดด
ตะคริวแดด มักพบในผู้ที่ทำงานกลางแดดหรือออกกำลังกายหักโหมขณะที่มีอากาศร้อน นอกจากนี้ยังพบมากจากการวิ่งออกกำลังกายในที่อากาศร้อนเป็นระยะเวลานาน ๆ จนเหงื่อออกมากแต่ได้รับการทดแทนน้ำและเกลือแร่ไม่เพียงพอ ทำให้กล้ามเนื้อกระตุก เกร็ง เป็นตะคริว จะมีอาการปวดกล้ามเนื้อ หน้าท้อง แขน ขา มีอาการเกร็ง ผู้ป่วยต้องหยุดออกกำลังกายหรือหยุดใช้แรงทันที และอยู่ในที่มีอากาศเย็นเพื่อลดความร้อนของร่างกาย
วิธีป้องกัน
1. หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ในช่วงเวลา 11.00 – 16.00 น.
2. ดื่มน้ำสะอาดวันละ 2 ลิตร หรือ 8 แก้ว โดยดื่มทีละน้อย ๆ และควรเป็นน้ำอุณภูมิห้อง
3. หลีกเลี่ยงการกินยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก โดยเฉพาะก่อนการออกกำลังกายหรืออยู่กลางแดดเป็นเวลานาน
4. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด
5. ใส่เสื้อผ้าบางเบาและสีอ่อน จะทำให้ลมพัดผ่าน ระบายความร้อนออกได้ดี
6. ลดของหวาน เนื่องจากอาหารที่มีน้ำตาลสูง เมื่อกินเข้าไปจะส่งผลให้ร่างกายเพิ่มการเผาผลาญจนทำให้อุณภูมิในร่างกายสูงขึ้น
7. อย่าออกกำลังกายหักโหม ควรเลือกออกในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น เพื่อเป็นการหลบเลี่ยงแสงแดด
นอกจากนี้การดื่มน้ำสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น เช่น น้ำใบเตย น้ำใบบัวบก น้ำใบย่านาง และ น้ำเก๊กฮวย ก็เป็นตัวช่วยที่ดีในการลดความร้อนในร่างกายค่ะ